วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เลือกหุ้นเพื่อแข่ง by พี่บ๊อบ

1. เลือกหุ้นมา 5 ตัว มูลค่าน้อยๆ เพื่อให้การขึ้นแต่่ละช่องมี % เยอะๆ จดลงในกระดาษ
2. หุ้นที่เลือกต้องเลือกแบบ Seasoning : โรงพยาบาล, ท่องเที่ยว
3. ห้ามซื้อหุ้นที่ลง ต้องเลือกตัวที่กำลังไป (พักฐาน)

การหาหุ้นเพื่อเล่นการจ่ายปันผลของปีหน้า
1. ดูการเติบโตของกำไรสุทธิ์ต่อไตรมาส โตขึ้นต่อเนื่องไหม ของปีก่อนทั้ง 4 ไตรมาส
2. ดูการเติบโตของกำไรสุทธิ์ต่อไตรมาส ของปีนี้ทั้ง 3 ไตรมาส
3. วิเคราะห์และคาดการณ์ได้แล้ว

จังหวะเข้า by คุณซัน
1. ซื้อเมื่อทะลุ h เดิม พร้อม Vol
2. Stop loss 3 ช่องหรือที่เรารับได้ ( ถ้าลึกมา เราทนไม่ได้....หลายๆ ครั้งตรงจุด SL ตามแนว Fibo น่าจะเป็นจุดที่น่าซื้อซะมากกว่า เพราะจ้าวก็รู้จักเทคนิค)

คุณซันจะชอบ จังหวะคนที่กลัวมากกว่า Break out อีก ตัวอย่างเช่นหุ้น NPP (Nippon) เก็บที่ 5 บาทเต็มๆ เพราะได้ช่องละ 1% แต่เสียช่องละ 0.5% เพราะเปลี่ยนช่อง 4.95 => 5


การซื้อขายหุ้น คือการซื้อขายกับอารมณ์คน มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน

ถ้าวันนี้เปิดฟอร์สนิท พรุ่งนี้จะเปิด gap ลงต่อ ดังนั้น ถ้าเปิดมาไม่ฟอร์สนิท ก็ลุ้นเด้ง

Fibo
หาเป้าวิ่ง => H เดิม มา L ใหม่


game จ้าว หุ้น IPO

1.Free flot น้อยๆ
2.ทุบจน vol แห้งๆๆ

เช่น RWI

watch lits
SVI ไม่ผ่าน 4.24 ไม่เล่น
CGS ร/ต  2.40 ผ่านรอขาย 2.70 สุดท้ายจะมีเข็มจิ้มไปถึง ไม่มีขอรอ 2.22 หลุด 2.18 ขาย 2.40 รอ 2.14
CGD ทำ dobble top , divergance เลิกเล่น 
ITD ผ่าน 6.35 ต้าน 6.65 แต่คุณซันมองว่าไม่ผ่าน นอกจาก fundamental change, ซื้อแล้วห้ามติดเพราะไม่มีปันผล
TFI, INOK,RPC ตุณซันไม่เล่นเลย นิสัยเดียวกัน จบลากคนไปติด ต้องจบในวัน
picko EMO เล่นทุกวัน ซื้อปิด, ลากของระหว่างวัน โยนใส่ แล้วรอซื้อปิด


ตี เทรนไลท์ ดู EMA วัด Fibo

เปิดโดด 2 ช่อง ok
เปิดโดด 10 ช่อง โยนใส่จ้าว

pattern ที่หน้าสนใจ
hammer 2 แท่งซ้อน

รวมหนังสือการลงทุน

http://hoonebook.blogspot.com/?m=1

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ค่า Basis

เผื่อใครงงๆกับ Basis นะครับ ว่ามัน+หรือ- มันมีความหมายว่าอะไร
เลยแชร์จากเพจลูกพี่ผม มาให้อ่านกัน
เกร็ดความรู้ในตลาด TFEX ครับผม  พอดีอ่านเจอบทความกล่าวถึง สภาวะตลาดแบบ Contango และ Backwardation ... เลยอยากมาแชร์เผื่อเพื่อนๆ ชาว Lucid ที่ยังไม่ทราบกันครับ
...
... สภาวะตลาดแบบ Contango ... คือ สภาวะที่ราคา Futures สูงกว่า ราคา Spot ( Futures > Spot ) ... จะเกิดขึ้นเมื่อตอน อัตราผลตอบแทนปราศจากความเสี่ยง มากกว่า อัตราผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์อ้างอิง ... (Risk free rate > Convenience Yield) ... ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จึงเลือกถือสัญญา Future แทน เพราะไม่ต้องแบกรับต้องทุนจากการถือครอง**
...
... สภาวะตลาดแบบ Backwardation ... คือ ราคา Spot > ราคา Futures ... เกิดขึ้นเมื่อ Convenience Yield > Risk free rate ... นักลงทุนจะถือครองสินทรัพย์อ้างอิง (เช่นได้ปันผล) ดีกว่าถือฟิวเจอร์ส
Cr....GuanTeen Trader
วิธีหาหุ้น

บริษัทในตลาดมีตั้ง 500 กว่าตัว...แล้วจะเลือกหาหุ้นมาทำการบ้านยังไงดี??
--------------------------------------------------------------------------------------
ไม่ยาก..!!! ผมจะแชร์ให้ว่าผมหาจากไหนมาทำการบ้าน เพื่อดูกราฟจับสัญญาณเทคนิค
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนนะว่า ผมเล่นเก็งลำไย...ด้วย Technical Analysis แบบเพียวๆ โดยเน้นการสังเกต Chart Pattern + Volume + Spread ราคา เป็นหลัก ดังนั้นปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ จะสนใจก็ดี ไม่สนใจก็ได้
เพราะงั้นเงื่อนไขที่เราจะใช้กรองหุ้นจาก 500 กว่าตัวให้เหลือไม่กี่สิบตัว เพื่อมาเปิดกราฟจับสัญญาณเทคนิคกันอีกที คือ เราจะเน้นไปที่ Volume เป็นหลัก
--------------------------------------------------------------------------------------
จบ...
หลอกๆ ยังไม่จบ นั้นแค่น้ำจิ้ม เพื่อทำความเข้าใจกันก่อน
ที่นี้ผมจะมาบอก ว่ามีวิธีการอะไรบ้าง เอาแบบง่ายๆไปใช้กรองหุ้นมาดูกราฟได้เลยคือ
1. หุ้น 30 อันดับ ในลิส Compare Avg.Vol 5 (%CMPR) โดยเข้า Efin ละกด F6 ซึ่งหุ้นในลิสนี้ ถ้าเรียงตาม%CMPR มันคือ หุ้นที่ มี Volume วิ่งแรงผิดปรกตินับเป็น % เทียบกับ Volume เฉลี่ย 5 วันก่อนหน้า นั่นเอง
2.หุ้นในลิส Most Active Volume ชื่อก็บอกอยู่ว่า คือหุ้นที่มี Volume มากสุดในวันนั้น
3.อันนี้เป็นอีกลิสที่ผมก็ใช้ดู คือ Top Gainer ผมดูเพื่อจะดูว่าวันนี้ เขาเล่น/ปั่นหุ้นตัวไหนกันบ้าง
4.อันนี้ง่ายสุด คือ คุณก็ไล่ดูตามเพจ ตามBlog ตามกระทู้หุ้นต่างๆ ว่าเขาแนะนำตัวไหนกันบ้าง แล้วก็จดเอาไว้ มาดูกราฟจับเทคนิคของคุณอีกที
5. http://scanhoon.blogspot.com/
เว็บนี้เขาจะสแกนหุ้นตามเงื่อนไขต่างๆมาให้ทุกวัน หน้าที่คุณคือเอามาเปิดกราฟจับเทคนิค ทำการบ้าน วางแผนเทรด !!!
------------------------------------------------------------------------------------
แค่นี้คุณก็สามารถกรองหุ้นจาก 500 กว่าตัว เหลือสักประมาณ 30-50ตัว หรือน้อยกว่านั้น มาทำการบ้านได้และ
ที่เหลือคือความขยันของคุณแล้วว่าอยากจะหาหุ้นเอง สังเกตกราฟเอง วางแผนเทรดเอง ฝีมือของคุณก็จะพัฒนาเอง ประโยชน์คุณเองล้วนๆ
ไม่ใช่ประโยชน์ใคร...ฮึ่มมมม
โชคดี...มีลำไย นะแจ่ะ
เครดิตเพจ...นักเก็งลำไย

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บันทึกการเทรด  31 ตุลาคม 2557 


วันนี้ขาย BTC และ LIVE ไป ซึ่งผิดหลักการโดยสิ้นเชิง เพราะจิตใจมันอ่อนไหวกับกำไรที่มันลดลง...หุหุหุ
โดยหลักแล้ว หลายวันที่ผ่านมา ใช้วิธี Trailling Stop แต่พอเห็นกำไรที่มันลดลง ไม่ไหวแล้วพะยะค่ะ.....เอากำไรดีกว่า

LIVE
    RSI = 81, Vol 1,570,000,000  มันน่าจะวิ่งต่อซะนี้กะลัย เนอะ....

BTC
   Vol กับ RSI หัวทิ้งลง....ขายดีกว่า เสียดายกำไรด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันที่ 29 ตุลาคม 2557



วันนี้ปรับพอร์ตอีกนิดหน่อย ยอมคัส TWZ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่ามันเริ่มมีสัญญาณจะวิ่ง เนื่องจาก 3 วันก่อน มองว่าให้เข้าซื้อตอน 0.52 ซึ่งวันนี้ก็ปรับตัวไปมาระหว่าง 0.53-0.54 สุดท้ายก็มาปิดที่ 0.53 ทำตัวเป็น Long Doji ที่สำคัญคือ เจอตัวใหม่ที่มีสัญญาณน่าสนใจกว่า





ตัวนั้นคือ ++>>> ESTAR มาตามดูกันว่าจะคิดถูกคิดผิดนะ


เหตุผลที่ชอบ
1. Vol เข้าวันแรก โค-ตะ-ระ เยอะ
2. Indi RSI เข้าใกล้ 70, MACD ตัดขึ้น ==> Support สุดๆ

* การคัส TWZ วันนี้ โดนไป 16,900 เจ็บพะยะค่า....สาเหตุที่เยอะ เพราะปล่อยให้ Loss ตั้งเกือบ 10% เกินจากที่ตั้งไว้ 3-5% ตั้งเยอะ....เศร้า

BTC
ยังรันอยู่ ทั้งที่กำไรหายไปกว่า 50,000 บาท จริงๆ แล้ว เราเฝ้าหน้าจอ ดังนั้น ต้องคว้าโอกาสที่ลอยเข้ามา ไม่ใช่พยายามที่จะหาเหตุผลอื่นมา Support เมื่อเกิดความผิดพลาด แต่ถ้าไม่ได้เฝ้าหน้าจอ สิ่งที่ทำคือสิ่งที่ถูกต้อง คือ ไม่หลุดก็ไม่คัส

แต่แอบมองลึกๆ ว่าเป้า 1.92 ต้องโดน...หุหุหุ



Tfex system trading
     สัญญาณวันสุดท้าย คือ 22/10/14 ยังคง Hold L 



By โค - ตะ - ระ เม่า


วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557


การทุบหุ้นของเจ้า

ทุบหุ้นไม่มีกระบวนท่าที่ตายตัว แต่อาศัยหลักการที่คล้ายกันคือ คนจะขายหุ้นออกมา เมื่อเขาเชื่อว่าจะลงมาอีก ดังนั้นวิธีการขายจึงมีมากกมาย จะเป็นการปล่อยข่าวร้าย จะขายหุ้นแรงๆ โชว์ให้กลัว ตัว offer เยอะไว้ขู่ หรืออาจจะอาศัยช่วงตลาดเลวร้าย ทำให้เชื่อว่าพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้า ราคาหุ้นจะถูกกว่านี้ ลองมาดูรายละเอียดกัน

1. การปล่อยข่าวร้ายเป็นวิธีที่ค่อยข้างได้ผลมาก หากหุ้นตัวนั้นมีข่าวร้ายขึ้นมา อยากให้ออกมาตั้งหลักก่อน จะปลอดถัยที่สุด จะเป็นเหยื่อหรือป่าวก็ต้องดูกันไป หากคุณต้องเสียเพราะเล่นหุ้นเพราะข่าวบ่อยๆ คราวหลังก็อย่าไปเล่นตอนมีข่าวร้าย

2.การขายหุ้นแรงๆวิธีนี้นิยมกันมาก เพราะทำง่ายกว่าการปล่อยข่าวร้าย การขายหุ้นก็ต้องมีเทคนิค หากคนไม่เคยทำทำไปก็จะแค่เป็นการขายของถูกให้แก่คนอื่น แทนที่จะขายแล้ว ซื้อได้ถูกกว่าเดิม โดยเทคนิคเสริม คือ มักจะทำในช่วงที่ราคาหุ้น เริ่มจะหลุด ไม่หลุดแนวรับ แนวต้านพอดี แต่ไม่สามารถผ่านไปได้เลยตกลงต่อไป

หากรายใหญ่เคยพยายามขายแล้ว แต่มีแรงรับเข้ามามาก อาจจะต้องใช้เทคนิคช่วย พวก เดย์เทรด เข้ามาช่วยเสริม โดยการทำราคาให้ปรับขึ้นเล็กน้อยในตอนเช้า แล้วยัดของใส่มือพวกรายวันเยอะๆแล้วพอช่วงบ่ายๆ ก็ค่อยทุบทิ้ง เมื่อถึงจุดแนวรับที่สำคัญ รายใหญ่อาจจะตั้ง bid ไว้เองผสมเข้าไป พอทุบลงไป แล้วพวกนั้นจะต้องตามมาขายคืนให้เราเอง และ bid หนาๆ ก็เพื่อ จะได้โชว์ให้เห็นว่า ที่แนวรับสำคัญยังเอาอยู่

วิธีการทุบหุ้นจอยู่ในสถานะการณ์ของหุ้นแต่ละตัว บางครั้งรายใหญ่ขายจนมาถึงแนวรับ ปรากฏว่ามีรายย่อยเข้ามาเสริม bid กันเยอะแยะ เห็นเป็นแสงสีเขียว กระพริบระยิบระยับ ไม่ขาดสาย พวกที่เข้ามาใหม่ส่วนมากเป็น พวกเกร็งกำไรระยะสั้นๆ ที่ชอบซื้อของถูก เพื่อหวังกำไรช่องหรือสองช่อง หากรายใหญ่เห็นมีการเสริม bid เข้ามา ก้พอรู้ว่า หากขายออกไปตอนนี้ อาจะเสียของแน่ๆ ก็อาจรีบซื้อคืนขึ้นไป สัก 1-2 ช่อง พอรายย่อยเห็นว่าหุ้นเริ่มรีบาวน์ ก็ตามเข้าไปหวังกำไรสั้นๆ รายใหญ่จะเติม offer อยู่ตลอด จนแรงซื้อเริ่มหมด ก็จะเติม offer เข้าไปให้หนามาก จนคนที่มีหุ้นอยู่แล้ว เริ่มขึ้นไปไม่รอดแล้วแน่ๆ และคนที่เพิ่งจะซื้อไปเมื้อกี้ ก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าซวยแน่ๆ คราวนี้รายใหญ่ก็จะอาศัยความรวดเร็ว ขายหุ้นทีละสองช่อง (หุ้นที่ตัวเองซื้อตั้งไว้) เมื่อถึงแนวรับที่สำคัญ ก็มีแรงขายมากขึ้น รายใหญ่ก็จะขายโชว์อีก อยู่แล้วด้วย เลยทำให้แรงขายมหาศาล ทะลุแนวต้านไปอย่างง่ายดาย รายย่อยที่เคยจะตั้งซื้อ ก็กลัวถอนออเดอร์ออกไม่กล้าเข้าไปรับอีก คนที่กล้าเข้ารับ ก็ต้องรีบขาย ก่อนมันจะลงไปมากกว่านี้ เพราะตอนนี้ bid หายไปหมด ก็มีแต่คนแย่งขาย จะมีก็แต่รายใหญ่ อาศัยช่วงชุลมุน เข้าไปรับของราคาถูก หากต้องการให้หุ้นลงไปอีก ก็จะแกล้งซื้อให้ราคาหุ้นมันเด้ง จากจุดต่ำสุดมาสักสองช่อง แล้วขายเติม offer ให้รายย่อยซื้อเหมือนเดิม พอซื้อจนหมดแรง ก็ทุบอีก

# nakron takkham

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันที่ 24 ตุลาคม 2557



หายหน้าหายตาไป:ซะตั้งหลายวัน....555 มะมีไรมาก แค่อยากบอกว่า "ลืมบันทึก"  อายจุงเบย   วันนี้ปรับพอร์ตนิดหน่อย ยอมคัส LIT ไป ขาดทุน 5000 บาท...เศร้า ด้วยเหตุผล คือ 
       เจอ ตัวที่มั่นใจกว่า คือ BTC ซึ่งกราฟสวยกว่าและ Vol เข้า ในขณะที่ LIT มองว่าหลุด TL และ Vol หาย ( อีกใจก็คิดว่า ราคาลง Vol ไม่มี เตรียมลากหรือเปล่าน่า.....)

     BTC

      OBV ยังคงสะสมเพิมขึ้นเรื่อยๆ

     LIT

แล้วเดี๋ยววันจันทร์เรามาดูกันว่า โค-ตะ-ระ เม่า จะรุ่งหรือจะลิ่ง....หุหุหุ

Tfex system trading
     สัญญาณวันสุดท้าย คือ 22/10/14 ยังคง Hold L เดี๋ยวเรามาตามดู HK


ข้อสังเกตุ
 - สูตรนี้ SW จะให้สัญญาณซื้อขายบ่อย 
 - ช่วง SW การเสีย ค่อนข้างจะมี % น้อยกว่า

By
โค - ตะ - ระ เม่า

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การปันผลเป็นหุ้น

http://thailandinvestmentforum.com/2014/10/26/dividendpayment/

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเทรด 17/10/57


วันที่ 17 ตุลาคม 2557

หลังจากที่ไม่ได้บันทึกการเทรดมาสักระยะเนื่องจากค่อนข้างยุ่ง วันนี้เลยจัดซะหน่อย กับกฎที่ต้องจดจำสำหรับการเล่น Day Trade เพราะมันสร้างความเสียหายให้กับเงินทุนและพลาดโอกาสงามๆ ด้วยอาการที่อยากบอกว่า น่าเขกกระโหลกซะที่........

กฎที่ต้องจดจำสำหรับ Day Trade 

1. หุ้นซึ่ม : ราคาซึ่มลงๆ เรื่อยๆ ต้องขายทิ้ง มั่วแต่มโนว่าเดียวมันก็จะกลับมา


ตี Fibo เพื่ออะไรครัช.....ตีแล้วไม่ทำตาม


2. หุ้นทะลุต้านและไม่ทำ Low ต้อง Run ให้สุด


3. ไม่อยู่หน้าจอ อย่าริ Day Trade : สบายไป โดด ACD ไป 5000 ซื้อแล้วขับรถไป กทม รู้ๆ ว่าจะไป มือดันซน....นรกเลย ครัช

Tfex system trading

ตอนนี้ระบบให้สัญญาณ Long = 1013


ทำให้สนุกแล้วจะสุขกับมันเอง.....by โค-ตะ-ระ เม่า

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

มหาเศรษฐีฮ่องกง ลี กา ชิง สอนวิธีทีซื้อบ้านและรถภายในเวลา 5 ปี

กระทู้สนทนา
หมายเหตุ : *1 หยวน ประมาณ 5 บาท

มหาเศรษฐีฮ่องกง ลี กา ชิง แบ่งปันความภูมิปัญญาทางด้านการเงินของเขา สรุปแผนที่ใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับแผนห้าปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างสิ้นเชิง

สมมติว่ารายได้ต่อเดือนของคุณมีแค่ 2,000 หยวน คุณสามารถมีการ เป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ โดยการที่คุณแบ่งเงินเป็น 5 ส่วน ส่วนแรก 600 หยวน, ส่วนที่สอง 400 หยวน, ส่วนที่สาม 300 หยวน, ส่วนที่สี่ 200 หยวน, ส่วนที่ห้า 500 หยวน

เงินส่วนแรก กันเอาไว้เพื่อใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน ด้วยวิธีง่ายๆ คุณแค่แบ่งเงินในแต่ละวันไว้ใช้จ่ายไม่เกิน 20 หยวนต่อวัน มื้อเช้าของทุกวันกินวุ้นเส้น ไข่หนึ่งฟอง และนมหนึ่งแก้ว ส่วนมื้อกลางวันก็กินอาหารเบาๆ และผลไม้ พอมือเย็นก็เข้าครัวไปทำอาหารที่ประกอบด้วยผัก และดื่มนมหนึ่งแก้วก่อนนอน ในหนึ่งเดือนค่าใช้จ่ายตกประมาณ 500-600 หยวน เมื่อคุณยังหนุ่มสาวร่างกายคุณยังไม่ค่อยเจ็บป่วยในช่วงปีแรกๆ พอเพียงสำหรับการกินอยู่แบบนี้

เงินส่วนที่สอง กันไว้สำหรับการสร้างเพื่อน และขยายความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในแวดวง สิ่งนี้จะทำให้คุณมั่งคั่ง กันไว้ 100 หยวนสำหรับค่าโทรศัพท์ กันเงินไว้สำหรับกินข้าวกับเพื่อนๆ 2 มื้อต่อเดือน มื้อละ 150 หยวน ใครคือคนที่คุณสมควรจะกินข้าวด้วย? จำไว้เสมอว่าคุณจะต้องกินข้าวกับคนที่มีความรู้มากกว่าคุณและรวยกว่าคุณหรือคนทีจะช่วยสนับสนุนคุณในด้านการงานได้ แน่ใจว่าคุณต้องทำเช่นนี้ทุกเดือน หลังจากนั้นหนึ่งปีแวดวงเพื่อนๆ ของคุณจะสร้างคุณค่ามากมายมหาศาลให้กับคุณ ชื่อเสียงและอิทธิพลของคุณจะเพิ่มมูลค่าเป็นที่จดจำ ภาพลักษณ์ของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

เงินส่วนที่สาม การเรียนรู้ คุณควรจะจ่ายเงินประมาณ 50 ถึง 100 หยวน ในการซื้อหนังสือ เพราะคุณมีเงินไม่มาก คุณควรเอาใจใส่กับการจ่ายเงินไปกับการเรียนรู้ เมื่อคุณซื้อหนังสือและอ่านมันอย่างระมัดระวัง จงเรียนรู้บทเรียนและกลยุทธต่างๆ ที่สอนไว้ในหนังสือ หลังจากอ่านหนังสือแต่ละเล่มให้เล่าเรื่องราวเป็นภาษาของคุณ การแบ่งปันกับคนอื่นจะช่วยให้คุณได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นคนที่น่าสนใจ และประหยัดเงินเดือนละ 200 หยวนเพื่อเข้าคอร์สอบรมต่างๆ เมื่อคุณรายได้เพิ่ม ให้กันเงินส่วนนี้เพิ่มขึ้นและเข้าร่วมคอร์สอบรมในระดับที่สูงขึ้น เมื่อคุณเข้าร่วมคอร์สอบรมที่ดีมันจะไม่ช่วยแค่ให้คุณมีความรู้ที่ดี แต่ยังจะช่วยให้คุณเจอเพื่อนที่มีความคิดเหมือนกันซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ

เงินส่วนที่สี่ เก็บไว้ใช้สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศในวันหยุด ให้รางวัลแก่ตนเองโดยการเดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อการเติบโตของประสบการณ์ในชีวิตอย่างต่อเนื่อง พักในโฮสเตลราคาประหยัด ในเวลาไม่กี่ปีผ่านไปคุณจะเดินทางไปหลายประเทศและจะมีประสบการณ์หลากหลาย ใช้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นการเพิ่มพลังใหม่ให้ตัวเองมีแรงขับดันในการทำงานต่อไป

เงินส่วนที่ห้า ลงทุน ประหยัด 500 หยวนเก็บไว้ในธนาคารเพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เงินทุนสามารถใช้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ การเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ มักจะปลอดภัยในการเริ่มต้น ไปหาผู้ค้าส่งและหาสินค้ามาขาย แม้คุณจะขาดทุน คุณจะเสียเงินไม่มาก อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเริ่มหาเงิน มันจะช่วยเพิ่มความมั่นใจกับความกล้า และได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ของการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ เมื่อมีรายได้มากพอคุณสามารถเริ่มมองหาแผนการลงทุนระยะยาว และลงทุนในหลักทรัพย์ระยะยาวด้วยเงินของคุณและครอบครัวคุณ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะเงินจำนวนนี้ของคุณไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำลง

อย่างไรก็ดี หลังจากคุณดิ้นรนเป็นเวลาผ่านไปหนึ่งปี ถ้าเงินเดือนคุณยังคง 2,000 หยวน นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้มีความก้าวหน้าขึ้นเลย คุณควรจะสำนึกละอายใจและสั่งสอนตัวเองด้วยการไปซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต และซื้อเต้าหู้ที่แข็งที่สุด แล้วเอามันปาใส่หัวตัวเองเพราะคุณสมควรโดนแบบนั้น

แต่ถ้าถึงตอนนั้นรายได้ต่อเดือนคุณอยู่ที่ 3,000 หยวน คุณต้องยังคงทำงานหนัก คุณต้องหางานเสริม จะเป็นการดีถ้าเป็นงานขาย ทำให้การขายเป็นเรื่องท้าทาย เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่คุณจะได้เรียนรู้ศิลปะในการขายและความรู้อย่างลึกซึ้งซึ่งสามารถนำไปใช้กับอาชีพคุณได้ เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเริ่มจากการเป็นนักขายที่ดี พวกเขามีความสามารถในการขายความฝันและวิสัยทัศน์ คุณจะพบผู้คนมากมายที่มีคุณค่าต่ออาชีพของคุณในภายหลัง เมื่อเริ่มขายคุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรขายได้และอะไรขายไม่ได้ ใช้ไหวพริบในการตรวจสอบตลาดเป็นวิธีในการดำเนินธุรกิจของคุณและหาผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นผู้ชนะในอนาคต

ซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าให้น้อยที่สุด คุณสามารถซื้อมันทั้งหมดได้เมื่อคุณรวย ประหยัดเงินของคุณและซื้อของขวัญให้คนที่คุณรักและบอกพวกเค้าถึงแผนการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ บอกพวกเค้าว่าทำไมคุณถึงต้องประหยัดอดออม บอกเค้าถึงความพยายาม ทิศทางที่คุณกำลังจะไป และความฝันต่างๆ ของคุณ

นักธุรกิจทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ให้คุณเสนอตัวเองต่อพวกเขาในการทำงานนอกเวลาในโอกาสต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาความสามารถของคุณ และคุณจะได้พัฒนาทักษะในการเจรจาของคุณและในไม่ช้าคุณจะใกล้เป้าหมายทางการเงิน เมื่อเข้าปีที่สองรายได้ของคุณควรจะเพิ่มเป็น 5,000 หยวน อย่างน้อยสุดก็ควรจะเป็น 3,000 หยวน มิฉะนั้นคุณจะไม่สามารถสู้กับเงินเฟ้อได้

ไม่ว่าคุณจะหารายได้เพิ่มมาขึ้นเท่าไร จำไว้เสมอว่าแบ่งเงินเป็นห้าส่วน ทำตัวเองให้เป็นประโยชน์อยู่เสมอ จงใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปกับการสร้างเครือข่าย เมื่อคุณรู้จักผู้คนมากขึ้นเครือข่ายของคุณขยายมากขึ้นคุณจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จงใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปกับการเรียนรู้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองมากขึ้น จงใช้เงินเพิ่มขึ้นไปกับการท่องเที่ยวในวันหยุดในที่ใหม่ที่ยังไม่เคยไป จงเพิ่มการลงทุนไปกับอนาคตคุณซึ่งมันจะสร้างรายได้ให้คุณอย่างมหาศาล

รักษาสมดุลนี้ไว้ และคุณจะเริ่มมีเหลือกินเหลือใช้เรื่อยๆ คุณกำลังเดินทางมาถูกทางสำหรับการวางแผนในชีวิต สุขภาพของคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณได้รับสารอาหารและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อนจะมีมากมายคุณจะสามารถสร้างคุณค่าจากเครือข่ายของเพื่อนได้ในเวลาเดียวกัน คุณจะได้รับโอกาสในการฝึกฝนตัวเองในทักษะระดับสูง และคุณจะได้รับผิดชอบโครงการที่ใหญ่กว่าเดิม โอกาสที่ใหญ่กว่าเดิม ในไม่ช้าคุณจะตระหนักว่าคุณมีความฝันมากมาย ซื้อบ้าน ซื้อรถ และเตรียมค่าเล่าเรียนของลูกของคุณ

ชีวิตและเส้นทางชีวิตสามารถออกแบบได้ซึ่งจะนำไปสู่ความสุข คุณควรเริ่มแผนตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อคุณจนให้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านให้น้อยกว่าการใช้เวลาอยู่ข้างนอก เมื่อคุณรวยอยู่ที่บ้านมากขึ้นอยู่ข้างนอกให้น้อยลง นี่คือศิลปะการใช้ชีวิต เมื่อคุณจนให้ใช้จ่ายเงินไปกับผู้อื่น แต่เมื่อคุณรวยใช้เงินไปกับตัวคุณเอง คนส่วนใหญ่ทำตรงกันข้ามกัน

เมื่อคุณจนจงทำดีกับผู้อื่นอย่ามัวแต่คิดเรื่องผลประโยชน์ เมื่อคุณรวยคุณต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ผู้อื่นดีต่อคุณ คุณต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวเองให้ดีกว่าเป็นคนที่ดีกว่าที่เป็น เมื่อคุณจนคุณต้องผลักดันตัวเองออกมาในที่คนอื่นสามารถจะมองเห็นคุณได้เพื่อให้คนอื่นใช้งานและทักษะที่คุณมี เมื่อคุณรวยคุณต้องรู้จักปกป้องตัวเองอย่าปล่อยให้ใครมาหลอกใช้คุณได้ง่ายๆ เป็นความซับซ้อนในเส้นทางของชีวิตที่หลายคนยังไม่เข้าใจ

เมื่อคุณจนให้คุณใช้เงินเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้จักคุณ แต่เมื่อคุณรวยจงอย่าโอ้อวดว่าคุณรวย ใช้จ่ายเงินของคุณในการซื้อของอย่างเงียบๆ เมื่อคุณจนคุณต้องเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเมื่อคุณรวยคุณต้องไม่ถูกมองว่าเป็นคนฟุ่มเฟือย ชีวิตของคุณจะวนกลับมาสู่สามัญคุณควรจะอยู่อย่างเรียบง่ายเมื่อคุณมาถึงจุดนี้

ไม่มีสิ่งใดผิดเมื่อคุณยังหนุ่มสาว คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจน คุณต้องรู้วิธีลงทุนในตัวคุณเองที่จะเพิ่มปัญญาและระดับความสำเร็จ คุณต้องรู้ว่าอะไรจำเป็นและไม่สำเป็นต่อชีวิต คุณต้องรู้ว่าอะไรควรหลีกเลี่ยงและไม่จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับมัน นี่คือวินัยที่จำเป็นอย่างยิ่ง พยายามหลีกเลี่ยงในการใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อเสื้อหลายๆ ชุดแต่รู้จักเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีเพียงไม่กี่ชุด พยายามกินข้าวนอกบ้านให้น้อยที่สุด ถ้าคุณกินข้างนอกบ้านคุณต้องแน่ใจว่าคุณซื้อมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่คุณจ่าย คุณจ่ายเพื่อกินกับผู้คนที่มีความฝันใหญ่กว่า ทำงานหนักกว่าคุณ

เมื่อการทำมาหากินของคุณไม่เป็นเรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป ใช้เงินที่เหลือไล่ตามความฝันของคุณ สยายปีกของคุณและกล้าที่จะฝันทำให้คุณแน่ใจว่าชีวิตของคุณเป็นสิ่งวิเศษ

ทฤษฎีที่มีชื่อเสียงจากฮาร์วาร์ด ความแตกต่างของโชคชะตาของแต่ละคนถูกตัดสินจากสิ่งที่เค้าจ่ายในเวลาว่างระหว่าง 20.00 น. ถึง 22.00 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนี้ในการเรียนรู้ คิด และเข้าร่วมในการเข้าร่วมการบรรยายหรือการสัมมนาที่มีความหมาย ถ้าคุณทำแบบนี้สักปีสองปี ความสำเร็จจะเข้ามาหาคุณ

ไม่สำคัญว่าคุณหาเงินได้เท่าไร จำไว้ว่าแบ่งเงินเป็นห้าส่วน ดูแลตัวเองรักษารูปร่างให้ดีอยู่เสมอ ลงทุนในการเข้าสังคมพบผู้คนใหม่อย่างต่อเนื่องและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้จากคนเหล่านี้ การขยายเครือข่ายทางสังคมจะทำให้รายได้คุณเพิ่มขึ้น เดินทางทุกปีในที่แตกต่างกันออกไป และคอยติดตามการพัฒนาการล่าสุดของโลกอุตสาหกรรมด้วย ถ้าคุณทำตามแผนนี้อย่างขยันขันแข็ง คุณจะมีเงินทุนเหลือมากมาย

อะไรที่ผ่านไปแล้วในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ามัวจมอยู่กับความผิดพลาด ไม่จำเป็นที่จะมัวมานั่งเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดพลาด และคุณจะได้เรียนรู้จากมัน และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พลาดซ้ำอีก เมื่อคุณพลาดโอกาสอย่ามัวเศร้าเสียใจ มีโอกาสใหม่รออยู่ข้างหน้าเสมอ

คุณสามารถที่จะยิ้มรับเมื่อถูกเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณทำผิดและคุณยิ้มรับอย่างสงบนั้นคือความใจกว้าง เมื่อคุณถูกเอาเปรียบแต่คุณยังยิ้มได้คุณคือคนใจกว้าง เมื่อคุณทำอะไรไม่ถูกให้คุณค่อยๆ ยิ้มอย่างใจเย็นมันจะทำให้คุณอยู่ในสภาวะที่สงบนิ่ง เมื่อคุณเจ็บปวดคุณสามารถที่จะหัวเราะออกมาดังๆ ได้คุณคือคนใช้กว้าง เมื่อคุณถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและคุณยิ้มได้อย่างสงบคุณคือคนที่มีความมั่นใจ เมื่อคุณถูกปฏิเสธในความสัมพันธ์และคุณสามารถยิ้มได้คุณคือคนอ่อนโยน

ยังมีคนอีกจำนวนมากที่จะดิ้นรนเพื่อที่จะมีเงินเพียงพอต่อการใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่มันไม่สำคัญว่าคุณจะรวยหรือจนน นี่คือทั้งหมดของบทเรียนที่คุณได้เรียนรู้จาก ลี กา ชิง

ที่มา : uttaya.com
แปลบทความจาก : therealsingapore.com
แก้ไขข้อความเมื่อ 

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเทรด วันที่สอง 7/10/57


วันที่สองของการบันทึก

เมื่อวานห่อ LIT กับ SVOA กลับมา (จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจห่อ แต่ติดดอยแล้วไม่ยอมคัส) ==> นิสัยของเม่า ที่ต้องรีบปรับปรุง

วันนี้เริ่มต้นได้ดีกับ LIT.....Trade ตัวเดียวนี้ละ (555 ความจริงคือดอยที่ 4.24 โค ตะ ระ ดอย => ราคาปิดวันก่อน 4.00)

ทำไมถึงเลือกเล่น LIT ก็ มะมีอะไรมาก แค่หันไปเห็น %CMPR ที่ ตาราง  Compare AVG Vol5 เท่านั้นล่ะ เลยเฝ้าดู

แต่รูปที่โชว์ มะมี LIT เพราะ Cop ไว้ไม่ทัน



จังหวะแรก จากดอยเดิมที่ 2.24 เห็นว่าราคาสามารถทะลุดอยเดิมได้ (ยอดก่อนหน้า) จัดการตี Fibo Retra ซะเลย เพื่อหาเป้าหมายว่าราคาจะไปที่เท่าไหร่ มองเห็นเป้าที่ 161.8% = 4.38 แต่ช้าก่อน.....
ราคาทะลุไปก๊อกแก๊กที่ Fibo 200% จัดการขายซะครึ่งหนึ่งก่อนที่ 4.46 ที่เหลือเอาไว้ลุ้นต่อ แต่ราคาไปไม่รอดทำแท่งแดงอันถัดไป + SSTO เริ่มตัดลงแว้ว..... เลยจัดการโยนหมดซะเลย ที่ 4.40 .....ไม่กลัวการขายหมูอยู่แว้ว....อูดๆ



จังหวะ 2 เห็นว่าเริ่มย่อ  แบบนี้ก็เข้าทางดิ เครื่องมือยอดฮิต ตี Fibo อีกรอบ หาเป้าราคาลง ราคาไหลลงไปที่ Fibo 50% แลัวไม่ทำ Lower Low ก๊อกแก๊กอยู่แถวนั้น เลยจัดการตีแนวต้าน (เส้นสีแดง) คั่นไว้ ราคาทะลุเมื่อไหร่ เราได้เจอกันแน่.....อมยิ้มด้วยความมั่นใจ เพราะวันนี้ LIT มาพร้อม Vol

พูดมะทันจบ ทะลุจนได้ แถมทะลุแบบ SSTO ตัดขึ้นอีก เอาเข้าไป....เยี่ยม

จัดไปที่ 4.32 .... เก่งมะไหร่ค่อยเพิ่ม Vol นะลูก




แถมด้วยการตี Fibo Project หาเป้าไปอีกรอบ....ราคาวิ่งมาชน Fibo ุ61.8% ขายซะหมดเลย ลืมไปว่า Fibo ไม่ได้มีเลขเดียว แต่ยังมี 100%, 123.6%, 161.8% อีก...โถๆๆๆๆๆ น่าเข็กกระโหลกตัวเอง มะน่างกเลย



เท่านั้นมะพอ แสดงความโง่ให้ครบวงจร จัดไป เป้าใหม่ที่ 4.74 ดอยโครตๆ ทั้งๆที่ High แค่ 4.78 แถมทำตัวแท่งยาว โค-ตะ-ระ แดง และแถม SSTO กำลังจะลาโลงแล้วด้วย..... พ่อหนุ่ม

มึนกว่านั้นอีก คือ หลุดแล้วไม่คัส.....จำฝังหัวว่า พฐ ดี แต่ลืมไปว่า กลยุทธ์ที่เข้าคือ Day trade!!!!






สรุป....กำไร 3,200 แต่ดอย 5,760 ครับ ก็ได้แต่มโนว่า วันรุ่งจะกลับมาวิ่งเหมือนวันนี้


สิ่งที่ต้องแก้
1. วินัยในการ Cut Loss  =>  2 วันติดแล้ว ต้องแก้โดยด่วน!!!
2. ความละเอียดในการอ่านกราฟ 

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บันทึกการเทรด วันแรกที่เริ่มบันทึก 6/10/57

วันแรกของการบันทึก

หลังจากที่ปีนี้เอาจริงเอาจังกับการที่จะเป็นนักลงทุนเต็มตัวแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นฤกษ์ที่ดีที่จะเริ่มต้นบันทึกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและสิ่งต่างๆ จากการเทรดเอาไว้เพื่อศึกษา

วันนี้เจอข้อผิดพลาดบานเริ่มจาก
  1. แยกแยะความสำคัญและความเสียหายไม่ออก มั่วแต่ไปจ้อง Day trade จนลืมดู Tfex สรุป จากกำไร 7,000 => -100,000 !!!! ..... ตาไม่ฝาดครับ อ่านว่า หนึ่ง-แสน-บาท ลองมาดูแต่ละจังหวะที่ผิดพลาดกัน  
  2. คิดช้า ทำช้า และไม่ทำตามแผน

จังหวะที่ 1 : ตลาดเปิดมาตอนเช้า 9:45 S50z14 มีการ Rebound ขึ้นมาจากเมื่อวันศุกร์ที่ประมาณ 1050 ขึ้นไปที่ 1053 แต่แท่งราคาฟอร์มตัวเป็น Hammer และตามด้วยแท่ง Confirm สีแดง แสดงว่า กรูขึ้นไม่ไหวแล้วนะ เด็ก เด็ก...... จังหวะนี้มโนว่ามันต้องไม่ลง.....เจ็บ

ตี Fibo หาเป้าที่จะลง(Blue line) สรุป ราคาไปหยุดที่ Fibo 161.8 ....แม่นยังกะจับวาง ให้ตายซิ จอร์ท!!!!

จังหวะ 2 (11:50-12:30) ราคามาหยุดที่ 161.8 และไม่ทำ Lower Low + SSTO จบรอบ มันกำลังบอกว่า กรูจะรีบาร์ว แล้วนะเกลอ.....แล้วกรูไปทำอะไรที่ไหน  ก็กำลังมั่วกับหุ้น Day Trade อย่างเมามัน ลืมไปเลยว่าหุ้น Day trade กำไรหลักพัน แต่ Tfex จุดละ 4000.......SAD

จังหวะ 3: หลังจากที่ไม่ทำ Lower Low ที่จังหวะก่อนหน้า เข้าทางดิ ตี Orange Fibo ซะเลย....แหม อย่างกับเซียน หาเป้า Rebound ..... อัยยะ แนวตัวเลขอาถรรพ์ 38.2 เอาซะอยู่ จากนั้นเริ่มทำ SW มันกำลังบอกนะว่ากรูมาได้แค่นี้ ไม่เชื่อดู SSTO ซิ OVB แล้วกำลังจะลงแล้วนะ.....มีเวลาตี Fibo แต่เสือกมะดู

จังหวะ 4: หลุดแนวรับ ลงต่อ.....จบเกมส์ ติดลบ หนึ่งแสนบาท.....ไปๆ เอาหัวโคกกำแพงซะ !!!!

"เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือฟาย"  จำไว้ไอ้ฟายยยยยยยยยย

ต่อๆๆๆๆๆๆ หุ้น Day Trade (TF 3 min)

ACD และ ECL ....ดูซะก่อน อย่างกับเซียน แต่สุดท้าย........


ECL

ไม้ที่ 1 เข้าเพราะทะลุแนวต้านที่ 1.98 จัดมา 20000 หุ้น สุดท้ายเอาไปขายที่ 2.14 และ 2.18....BIG PIG เลย และที่ขายเพราะกลัว

ส่วนหลักการเข้าครั้งนี้คือ ดู Bid-Offer และกราฟช่วยดูว่ามันอยู่ตรงไหนแล้ว สรุปจุดที่เราเขาแล้วทะลุแนวต้านเข้าไป....ช่างดูดี ซะเนี้ยกระลัย

ACD

ตอนเข้าดู TF-D ประกอบ เห็นว่าถ้าทะลุต้าน อย่างไงก็ต้องตาม เพราะวันนี้ Vol ของ ACD เขามาด้วยนะจ๊ะ


ตัวนี้ตั้งใจ Day trade อยู่แล้ว พอเห็นราคาเริ่มทะลุแนวต้าน 1.94 ก็เริ่มจ้อง....(ที่จ้องนี้แหระ ถึงโดน TFEX ตบเอา)


ACD : ใช้กลยุทธ แนวรับแนวต้าน+ Bid/offer เห็นกระพริบๆ แล้วเวลายกมี Vol ตาม ก็กระโจนเข้าไป ลูกศรสีเขียว แล้วเอาไปขายแถวแนวรับ (ลูกศรสีแดง)....มันส์มาก เล่นไปซะ 3  ไม้ กำไร 1900....555

จริงๆ น่าจะห่อกลับ กราฟดูดี


by โค-ตะ-ระ เม่า