วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หา Fair Value ,Target Price มูลค่าพื้นฐาน และราคาเป้าหมายของหุ้นแต่ละตัว

 Fair Value ,Target Price มูลค่าพื้นฐาน และราคาเป้าหมายของหุ้นแต่ละตัว

Fair Value, Target Price, มูลค่าพื้นฐาน ทั้งหมด คือสิ่งเดียวกัน ... ในที่นี้จะขอเรียกว่า Target Price นะครับ

Target Price หาได้ 2 แบบใหญ่

1. Relative approach หรือ Market multiples Approach (เทียบความถูกแพงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน)

1.1 Price to Book Value --> เอา Book Value ของบริษัทที่คาดการณ์ไว้ในอนาคต 12 เดือนข้างหน้า คูณกับ Price to Book Value Ratio (P/BV ratio) ของอุตสาหกรรมเดียวกัน ประมาณว่า โดยทฤษฏีแล้ว ความถูกแพงในระยะยาวของหุ้นแต่ละตัวจะปรับเข้าสู่ตัวเลขใกล้ ๆ กัน คือ ควรจะมี P/BV ใกล้ ๆ กันทั้งอุตสาหกรรม 

1.2 Price to Earning --> เอากำไรต่อหุ้น (Earning per share) ของบริษัที่คาดการณ์ไว้ในอนาคต 12 เดือนข้างหน้า คูณกับ Price to Earning Ratio (P/E Ratio) ของอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยอิงหลักการเหมือน P/BV

คูณกันแล้วได้ค่าออกมาเท่าไร ก็คือ Target Price ที่ได้จากวิธี Relative Approach

2. Discount Cash Flow Approach (คิดลดกระแสเงินสดที่จะได้รับในอนาคต)

2.1 Dividend Discount เอาประมาณการเงินปันผลที่ผู้ลงทุนจะได้รับในอนาคต (สูตรคณิตศาสตร์สามารถคำนวณ cash flow ที่ไม่รู้จบให้มาเป็นก้อนนิ่ง ๆ ได้) มาคิดเป็นมูลค่าในวันนี้ 

2.2 Free Cash Flow Discount เอาประมาณการกระแสเงินสดสุทธิที่เจ้าของกิจการจะได้รับในอนาคต มาคิดเป็นมูลค่าในวันนี้

เจ้าก้อนของมูลค่าในวันนี้ ก็คือ Target Price ที่ได้จากวิธี Discount Cash Flow Approach

ในการพิจารณา Target Price ต้องทำหลาย ๆ วิธี และดู Range ของตัวเลขที่คำนวณได้ ไม่ใช่การคำนวณออกมาค่าเดียวแล้วฝังใจใช้ไปเลย เพราะอนาคตไม่แน่นอน แต่ก็จะมีช่วงราคาที่มันเป็นไปได้อยู่ช่วงหนึ่ง ไม่ใช่จุดใดจุดเดียว ในการตัดสินใจลงทุน ก็ดูว่า ราคาตลาดในปัจจุบัน มันอยู่แถว ๆ ไหน เมื่อเทียบกับช่วงที่คำนวณได้นั้น เช่น ตอนนี้ราคา 50 บาท แต่คำนวณช่วงราคาที่ควรเป็นได้ประมาณ 70-90 บาท แบบนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะขอบล่าง สูงกว่าราคาปัจจุบัน แต่ราคาคำนวณได้ที่ 45-60 บาท แบบนี้ก็น่าสนใจน้อยลงมา เพราะก้ำกึ่ง

ทั้งนี้ เราสามารถศึกษาการวิเคราะห์หา Target Price หรือ Fair Price เพิ่มเติมได้จาก 

1. Research Paper ของค่ายต่าง ๆ ที่เปิดเผยไว้ใน settrade.com หน้า IAA Consensus 

อย่างในรูปเป็นตัวอย่างของหุ้น SCB ซึ่งอย่างค่าย Trinity (เปิดดูไฟล์ PDF) เขาใช้วิธีง่ายหน่อย คือ เทียบกับ P/BV 
(http://www.settrade.com/AnalystConsensus/C04_10_stock_saa_p1.jsp?selectPage=10&txtSymbol=SCB)

2. เอกสารที่ Financial Adviser เปิดเผยต่อตลาด เมื่อมีดีลซื้อขายกิจการ

อย่างในรูป เป็นดีลที่บริษัท EE ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า ก็จะต้องมีการคำนวณหามูลค่าที่เหมาะสมของกิจการ เพื่อเทียบว่า ราคาที่ซื้อขายกันนั้น สมเหตุผลหรือไม่ โดยลองคำนวณหลาย ๆ วิธีแล้วเอามาดูว่า Range เป็นอย่างไร ซึ่งรูปที่คัดมา เป็นแค่บางช่วงบางตอนเท่านั้น เพื่อให้พอได้กลิ่น แนะนำให้ดูเอกสารฉบับสมบูรณ์จะดีที่สุดครับ
(http://www.set.or.th/set/pdfnews.do?file=http%3A%2F%2Fwww.set.or.th%2Fdat%2Fnews%2F201411%2F14070348.pdf)








3. ตำราวิชาการด้านการลงทุน (คนที่ทำข้อ 1 ข้อ 2 ก็เรียนมาจากข้อ 3 นี่ล่ะครับ) 

อย่างในรูป เป็นหนังสือเตรียมสอบ CISA Level 2 ในหมวด การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ครับ
(http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1193&Itemid=991%20)

• http://www.facebook.com/ThInvestForum
• http://thailandinvestmentforum.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น