""" 24 วิธีเอาชนะหุ้น """"
เล่นหุ้นลงทุนในหุ้นพูดไปแล้วไม่ใช่เรื่องยากเรื่องเย็นอะไรพกเงินมาเข้าหาโบรกเกอร์เปิดพอร์ตเล่นหุ้นก็ซื้อขายหุ้นได้แล้ว แต่ที่หวังจะชนะตลาด กำไรจากหุ้นนี่ซิคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ เพราะเท่าที่เห็นนักลงทุนผู้เล่นหุ้นส่วนใหญ่กลายเป็นแมงเม่าในตลาดหุ้นร้องกันระงม ส่วนพวกที่ประสบความสำเร็จก็มีบ้างแต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย การหวังชนะตลาดหุ้น เล่นหุ้นแล้วรวยคงไม่มีสูตรตายตัวแน่ แต่ก็มีกลยุทธ์แม่ไม้หลายขบวนท่าที่นักลงทุนผู้เล่นหุ้นควรต้องศึกษาเพื่อนำมาใช้เป็นเกาะป้องกันตัวและเป็นเครื่องมือแสวงหาความสำเร็จต่อไป ณ ที่นี้ขอนำวิธีเล่นหุ้น 24 ขบวนท่ามาฝากเพื่อเอาชนะหุ้น ส่วนจะได้ผลมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับท่านทั้งหลาย จะนำไปปรุงแต่งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์สร้างแนวคิดต่อยอดค้นหาความสำเร็จกันต่อไป
1. อย่ากลัวกับเรื่องที่จะเสียเวลาต่อการไขว้คว้าหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องหุ้น
เพราะเรื่องราวของการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีอะไรให้เรียนรู้มากมายหลายเรื่องไม่จบสิ้น การลงทุนในตลาดหุ้นก็เหมือนกับการทำธุรกิจบริหารบริษัทให้เกิดกำไรดังนั้นต้องรู้จักแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้มาก ๆ
2. จงจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับตัวหุ้น กลุ่มผู้บริหาร การประกอบธุรกิจ ความเป็นมาเป็นไปของ บริษัททั้งอดีตและปัจจุบัน เพื่อเป็นการตอกย้ำความทรงจำต่อตัวหุ้นทุกแง่ทุกมุม
3. ต้องเข้าถึงข้อมูลทั้งเชิงลึกและตื้นเพื่อให้รู้เท่าทันถึงคุณค่าของตัวหุ้น ในยุคสมัยนี้มีสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นตัวแปร เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนนั้นมีมากเหลือเกิน เช่น การเพิ่มทุน การลดทุน การออกวอแรนต์ การออกหุ้นกู้ การร่วมทุน ฯลฯ ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาในตัวหุ้นที่สนใจอย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดให้ได้
4. ให้น้ำหนักที่จะซื้อหรือถือครองในตัวหุ้นที่มีอัตราการเติบโตที่ดีเท่านั้น เพราะหุ้นในกระดานมีให้เลือกมากมายหลายตัว จึงควรเปรียบเทียบประเมินถึงมูลค่าหุ้นแต่ละตัวโดยเฉพาะการพิจารณาถึงผลการดำเนินงานของหุ้นในอนาคตว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นเช่นใด และก็ควรเลือกหุ้นที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น เพื่อความสำเร็จต่อการลงทุนที่ดีของเรา
5. อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจต่อการลงทุนทุกครั้งทุกรอบ เพราะการใช้อารมณ์ในการตัดสินลงทุนมักก่อให้เกิดความผิดพลาดได้เสมอ หลักในการลงทุนที่แท้จริงนั้นควรต้องใช้เหตุและผลเข้าอ้างอิงพิจารณาลงทุน ดังนั้นการใช้อารมณ์จึงไม่ใช่เครื่องมือที่นำมาตัดสินใจลงทุน
6. เมื่อมีปัญหาในการลงทุนควรใช้หลักแห่งความน่าจะเป็น หรือความเป็นไปได้ในการตัดสินใจแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นตามมาให้ได้
7. ในขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นทรุดตัวลง อย่าปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่แก้ไข หรือปรับปรุงพอร์ต เพราะนั่นเท่ากับว่าเรายอมพ่ายแพ้ต่อภาวะตลาดซึ่งจะทำให้เสียหายและแก้ไขยากเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ
8. ควรตัดสินใจอย่างฉับพลันที่จะซื้อหรือขายหุ้นโดยทันที เมื่อมองเห็นหรือสามารถคาดการณ์ภาวะตลาดว่าจะไปในทิศทางไหน
9. มีขอบเขตในการปรับตัว พร้อมเปลี่ยนแปลงต่อภาวการณ์ลงทุนได้ทุกเมื่อ เพราะการปรับเปลี่ยนที่คล่องตัว ย่อมทำให้ได้เปรียบต่อการลงทุนอย่างยิ่ง
10. ห้ามโกหกตัวเองด้วยความคิดที่เข้าข้างตนเองเสมอ ทั้งที่ข้อมูลชี้ชัดว่าทิศทางแนวโน้มจะเป็นเช่นใด ราคาหุ้นเริ่มตอบสนองความเล วร้ายในแง่ปัจจัยกระทบ แต่ตัวเองกับมองว่าเดี๋ยวทุกอย่างคงคลี่คลายดีขึ้น เพราะตัวเองถือหุ้นอยู่ นั้นจะทำให้ท่านไม่สามารถค้นหาความจริงได้
11. อย่าคาดคั้นหาคำตอบในทางตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เช่น ทำไมหุ้นตัวนี้ไม่ขึ้น หุ้นตัวนั้นไม่วิ่ง ทั้งที่ความจริงหุ้นตัวนั้น ๆ มีปัจจัยพื้นฐานแย่ เพราะอาจทำให้เราเกิดหลงทางได้
12. จงพยายามฝึกฝนตนเองเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งแง่การติดตามปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางด้านเทคนิค
13. ไม่ควรคาดหวังกับผลการลงทุนในเชิงบวกมากเกินไปนัก เพราะอาจทำให้ผิดหวัง จงจำไว้เสมอว่าการลงทุนในตลาดหุ้นความแน่นอนคือความไม่แน่นอนเพียงแต่ว่าเราควรหาวิธีลดความเสี่ยงในการลงทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
14. ห้ามยึดติดกับการชักชวนหรือชี้นำของใครคนใดคนหนึ่งให้ซื้อหรือขายหุ้น โดยที่เราเองไม่ได้ไตร่ตรองเสียก่อน นั่นเท่ากับว่าเรานั้นไม่มีหลักคิดในการลงทุนเลยแม้แต่น้อยซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้
15. ซื่อสัตย์ต่อตนเองเสมอ โดยเฉพาะในเรื่องของหลักการลงทุน เราจะลงทุนในหุ้นโดยไม่ออกนอกกรอบกติกา เช่นไม่ไล่ซื้อหุ้นด้วยอารมณ์ ไม่ขายหุ้นเพราะคล้อยตามผู้อื่น ไม่ซื้อหุ้นเกินตัว ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อตนเองต่อกติกา เราก็สามารถแสวงหากำไรและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
16. ควรให้โอกาสตนเองเสมอในการแก้ไขข้อผิดพลาด เพราะการลงทุนย่อมเกิดความผิดพลาดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นไม่ควรท้อแท้หรือเบื่อหน่ายตนเอง แต่ควรหาจุดแก้ไขข้อบกพร่อง ขจัดจุดอ่อน และแสวงหาจุดแข็ง เพื่อการลงทุนที่ถูกหลักถูกต้องต่อไป
17. อย่าทำตัวเป็นคนเก่งในตลาดหุ้นโดยไม่ยอมรับข้อมูลใด ๆ อย่าเชื่อมั่นตนเองจนเกินเลย เพราะอาจทำให้เราเวียนวนอยู่ในมุมอับของข้อมูล และจะไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่เป็นจริงเหนือความคิดของตนเองได้
18. จงแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เปิดวิชั่นให้กว้างไกล อย่าสกัดกั้นตนเองในกรอบแคบ ๆ ควรรับรู้ข่าวสารข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควรรู้จักประเมิน พิจารณาใช้วิจารณาณอย่างถูกต้องเพื่อการลงทุนที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์มากที่สุด
19. ต้องรู้จักการเรียนรู้ นึกถึงข้อดี ข้อเสีย ในการลงทุนทุก ๆ จุดที่ผ่านมา ค้นหาความได้เปรียบเสียเปรียบ เพื่อนำมาปรับปรุง ให้ได้จุดแข็งที่ดีที่สุดต่อการลงทุนในอนาคต
20. มีความรู้สึกที่ยินดี แสดงความดีใจกับเพื่อนนักลงทุนที่คุ้นเคยเมื่อพวกเขาเหล่านั้นสามารถทำกำไรจากตลาดหุ้นได้ และหลีกเลี่ยงการแสดงอาการหรือคำพูดที่ส่อเสียดก้าวร้าวกับเพื่อนนักลงทุน เพราะจะทำให้เรานั้นขาดมิตร และไร้เพื่อนคู่คิดต่อการลงทุนได้
21. อย่าปิดกั้นตนเองในการมองหุ้นหรือค้นหาหุ้นทั้งกระดานเพียงแค่คิดจะเล่นหุ้นอยู่ในกลุ่มไม่กี่หมวดกี่ตัวเท่านั้น เพราะหุ้นในกระดานกว่า 500 ตัว มีให้เลือกอย่ามองเพียงแค่หุ้นสองสามตัวที่คุ้นเคยเท่านั้นเอง
22. รู้จักที่จะมองหุ้นพิจารณาว่าซื้อหรือขายด้วยการทำการบ้าน ประเมินมูลค่าหุ้นมองทิศทางหุ้นด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้เรานั้นสามารถรู้ลึกรู้คุณค่าหุ้นที่เหมาะสมและลงทุนได้ถูกต้องถูกตัวในเวลาที่เหมาะสม
23. คิดถึงอนาคตเสมอ จะซื้อหุ้นควรมองมูลค่าหุ้นในอนาคต ควรคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต เพราะราคาหุ้นนั้นจะเดินหน้าหรือถอยหลังคงขึ้นอยู่กับการดำเนินงานที่แท้จริงในอนาคตเท่านั้นเอง
24. ต้องรู้จักรักตัวเองให้มาก ๆ อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูง พลาดท่าเสียทีอาจจะเสียคนหมดอนาคตได้ ด้งนั้นการลงทุนทุกรอบทุกครั้งควรตระหนักพิจารณาอย่างถ้วนถี่หากมองแล้วมีโอกาสชนะมากกว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซนต์ค่อยน่าสู้ จงคิดถึงตัวเองและรักตัวเองเสมอเพราะถ้าลงทุนแล้วผิดพลาดเราเองนั้นละที่จะเจ็บปวดสุด ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น