<< พฤติกรรมของราคาหุ้น ตอนที่ 1 >>
คำกล่าวที่ว่า “ ต้องชัดเจนทั้งเขาและเรา จึงเข้าโจมตี ” หมายถึงต้องศึกษาสถานการณ์อย่างละเอียดและรอบคอบ แล้วจึงค่อยกำหนดกลยุทธ์เข้าจู่โจม ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ตรงกับของ "ซุนวู" ที่ได้กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามว่า....
“ รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ”
ในสมรภูมิรบคงมีแต่คนบ้าที่ไร้สติเท่านั้น ที่บุ่มบ่ามถือดาบออกไปลุยระห่ำ โดยไม่ได้ประเมินข้าศึกฝ่ายตรงข้ามเลยว่าเก่ง หรือเจ๋งกว่าฝ่ายตนขนาดไหน อีกทั้งในสถานการณ์จริงในสนามรบ บางที่ข้าศึกก็ทำทีว่าอ่อนแอ หรือบางทีก็ทำทีว่าเข้มแข็ง เพราะมักจะสร้างกลลวงให้เห็นอยู่เสมอ และบางทีก็ไม่ได้เสแสร้งหรือแกล้งแต่อย่างใด....
ด้วยเหตุนี้แม่ทัพจะต้องมองให้ขาด และชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังจะทำอะไร และใช้วิธีการอย่างไร
นั่นก็คือ…
นั่นก็คือ…
“ จะต้องประเมินสถานการณ์ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยกำหนดวิธีการเข้าโจมตี ”
-- -- -- -- -- --
ในตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน การขึ้นลงของราคาหุ้นจึงไม่ต่างจากกลสงคราม ที่มักจะมีอะไรแอบแฝงอยู่เสมอ เราจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องศึกษาพฤติกรรมของราคาหุ้น....
--> เรามาดูพฤติกรรมราคาหุ้นในแต่ละกรณีกันครับ <-- p="">-->
กรณีที่ 1. ราคาหุ้นกำลังวิ่งขึ้น ปริมาณหุ้นคึกคัก
มีคนกลุ่มหนึ่งเป็นคนทำราคาให้วิ่งสูงขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้ซื้อหุ้นเก็บไว้ตอนราคาต่ำๆ มาก่อนหน้าแล้ว
....
คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นรายย่อยก็มักจะไล่ซื้อตามราคาหุ้นที่กำลังร้อนแรง โดยตั้งราคาขายดักไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาไปถึงก็ได้กำไรในส่วนต่างนั้น พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะเล่นกันแบบฉาบฉวยเมื่อกำไรในส่วนต่างนั้น พวกเขาก็จะไปเล่นตัวใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ
....
คนกลุ่มแรกนี้มีพลังเงินมาก จะอาศัยการดึงราคาหุ้นขึ้นลงแบบฉุดกระชากลากถู จนคนกลุ่มที่สองเริ่มมองเห็นก็จะเข้ามามากขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ยิ่งจะพาราคาหุ้นให้วิ่งไปแรงๆ จนถึงจุดที่เขาต้องการ จากนั้นจะเริ่มปล่อยของ (ขายหุ้นออก) เมื่อมีคนเข้ามามากขึ้น คนที่มาทีหลังจึงไปรับหุ้นที่คนกลุ่มแรกได้ขายออกมา
....
วิธีการดังกล่าวมักจะตามด้วยข่าวดีมาเสริมให้ราคาหุ้นดูมีเหตุผลมากขึ้น
....
คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นรายย่อยก็มักจะไล่ซื้อตามราคาหุ้นที่กำลังร้อนแรง โดยตั้งราคาขายดักไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาไปถึงก็ได้กำไรในส่วนต่างนั้น พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะเล่นกันแบบฉาบฉวยเมื่อกำไรในส่วนต่างนั้น พวกเขาก็จะไปเล่นตัวใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ
....
คนกลุ่มแรกนี้มีพลังเงินมาก จะอาศัยการดึงราคาหุ้นขึ้นลงแบบฉุดกระชากลากถู จนคนกลุ่มที่สองเริ่มมองเห็นก็จะเข้ามามากขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ยิ่งจะพาราคาหุ้นให้วิ่งไปแรงๆ จนถึงจุดที่เขาต้องการ จากนั้นจะเริ่มปล่อยของ (ขายหุ้นออก) เมื่อมีคนเข้ามามากขึ้น คนที่มาทีหลังจึงไปรับหุ้นที่คนกลุ่มแรกได้ขายออกมา
....
วิธีการดังกล่าวมักจะตามด้วยข่าวดีมาเสริมให้ราคาหุ้นดูมีเหตุผลมากขึ้น
- - เราจะเข้าไปเล่นจึงต้องมองการวิ่งขึ้นของราคาหุ้นให้ออกว่าเพราะเหตุใด - -
ความผันผวนของราคาหุ้นนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจะต้องไวต่อสถานการณ์ ดังนั้นเราจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างแจ่มชัด และศึกษาพื้นฐานของหุ้นนั้นให้แตกฉาน เพื่อลดความเสี่ยงให้มากที่สุด ก่อนจะบุ่มบ่ามเข้าไปลุย โดยต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมราคาหุ้นจึงสูงขึ้นในช่วงจังหวะเวลานั้น
.. ถ้าไม่รู้ ก็หลีก ครับ ..
- - โจโฉ - -
cr https://www.facebook.com/stockwarlord/?fref=nf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น