วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หลักการสแกนหุ้นสูตรดั้งเดิม
เริ่มต้นจากแนวความคิดที่ว่า หุ้นจะเป็นขาขึ้นเมื่อกราฟ Stochastics เป็นขาขึ้น EMA3 ตัด EMA12 ขึ้นไป
กราฟ Day และ Week เป็นขาขึ้นหุ้นตัวไหนที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดนี้ ก็อยู่ในข่ายที่เราจะเลือกมาลงทุน ในระยะวันและระยะสัปดาห์ หุ้นกำลังขึ้น ไม่ใช่กำลังลง
หลักการสแกนหุ้นสูตรตั้งลำ
เป็นแนวความคิดต่อยอดมาจากสูตรดั้งเดิม คือบางครั้งกราฟสวยแล้ว แต่ราคาก็ยังไม่ยอมไปไหน จึงต้องหาวิธีการคัดหุ้นที่มีโอกาสไปมากกว่ามาพิจารณา แล้วตัดหุ้นที่กราฟสวยแต่เจ้าไม่เล่นทิ้งไป
จากการสังเกตหุ้นที่เปิดตลาดมาแล้ววิ่งไปไกลเลยนั้น มักจะแสดงอาการบางอย่างล่วงหน้า 2-3 วัน คือจะมีคนแอบสะสมหุ้น ทำให้ราคาในระหว่างวันจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จะกลับมาปิดแถวๆ ราคาเดิม ทำให้ดูเหมือนกับว่า ราคาหุ้นไม่คิดจะไปไหนเลย จนวันสุดท้ายเจ้าจะทำราคาปิดสูง และสูงกว่า 2-3 วันที่ผ่านมาด้วย ใครเห็นก็ไม่กล้าเข้า เพราะกลัววันถัดไปจะตกกลับลงมา แต่ที่ไหนได้ วันถัดไปหุ้นก็จะเปิดสูงขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้รายย่อยไม่กล้าเข้า แล้วหุ้นก็จะวิ่งหนีไปไกลเลย กว่ารายย่อยจะรู้สึกตัว ราคาก็แพงมากแล้ว จะเข้าก็กลัวเป็นแมงเม่า 55555
หุ้นที่ปิดสูงก่อนวิ่งในวันถัดไปว่า หุ้นตั้งลำ เหมือนปืนใหญ่ก่อนจะยิง จะตั้งลำกล้องปืนชี้ไปยังทิศทางเป้าหมาย ก่อนจุดชนวนยิงต่อไป
เงื่อนไขของการสแกนหุ้นสูตรตั้งลำ มีดังต่อไปนี้
- มูลค่าการซื้อขายทั้งวันต้องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (คำนวณง่ายๆ คือ ราคาปิด คูณ โวลุ่ม)
- กราฟ Stochastics ระดับวัน กำลังขึ้น (ดูรายละเอียดได้จากสูตรดั้งเดิม)
- กราฟ Stochastics ระดับสัปดาห์ กำลังขึ้น (ดูรายละเอียดได้จากสูตรดั้งเดิม)
- ราคาปิดวันนี้ เท่ากับ ราคาไฮวันนี้
- ราคาปิดวันนี้ มากกว่า ราคาไฮเมื่อวาน (ย้อนหลัง 1 วัน)
- ราคาปิดวันนี้ มากกว่า ราคาไฮวันก่อนเมื่อวาน (ย้อนหลัง 2 วัน)
- ราคาปิดวันนี้ มากกว่า ราคาไฮวันก่อนวันก่อนเมื่อวาน (ย้อนหลัง 3 วัน)
หลักการสแกนหุ้นสูตรบัวพ้นน้ำ
หลักการสแกนหุ้นสูตรบัวพ้นน้ำ
พระพุทธเจ้าทรงเปรียบคนกับบัวไว้ 4 เหล่า ได้แก่
-บัวพ้นน้ำ คือ บัวที่ต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
-บัวปริ่มน้ำ คือ บัวที่จะเบ่งบานในวันต่อๆไป
-บัวในน้ำ คือ บัวที่จะจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
-บัวใต้โคลนตม คือ บัวที่ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
ธรรมชาติของดอกบัว จะไม่บานในน้ำ แต่จะชูก้านดอกขึ้นเหนือน้ำก่อน แล้วรอคอยแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ เมื่อมันได้รับพลังงาน จึงจะบานและเปล่งแสงสีสวยงามให้ผู้พบเห็นได้ชื่นชม ถ้าเมื่อไหร่เราพบเห็นบัวพ้นน้ำขึ้นมาได้ แสดงว่า เราจะได้เห็นมันเบ่งบานในเวลาอันใกล้
เปรียบเสมือนหุ้นที่ไซด์เวย์มานาน ราคาเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในกรอบจำกัด จนกระทั่งวันหนึ่ง ราคาสามารถขึ้นทะลุกรอบด้านบนได้ โดยมีโวลุ่มสนับสนุนที่มากกว่าวันก่อนๆ แสดงว่า หุ้นตัวนี้พร้อมที่จะขึ้นต่อไปอีกด้วยพลังที่มากเกินพอ
ถ้าหากไม่มีโวลุ่มมากพอสนับสนุน ราคาหุ้นที่ขึ้นไปก็จะต้องตกกลับลงมาทันทีหรือในวันถัดไปอย่างแน่นอน เพราะราคาหุ้นที่สูงขึ้น ย่อมจูงใจให้คนที่ถืออยู่อยากขายหุ้นออกมา ถ้าเจ้าท่านไม่รับซื้อหุ้นเหล่านี้เอาไว้ที่ราคาสูง ราคาหุ้นย่อมตกกลับลงมาในกรอบไซด์เวย์เดิม เข้าใจกันหรือยังครับว่า โวลุ่มนั้นสำคัญไฉน
เงื่อนไขที่ใช้ในการสแกนหุ้นสูตรบัวพ้นน้ำ มีดังนี้
-มูลค่าการซื้อขายทั้งวันต้องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (คำนวณง่ายๆ คือ ราคาปิด คูณ โวลุ่ม)
-ราคาหุ้นต้องแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยในรอบ 15 วัน มีส่วนต่างของราคา high กับ low ไม่เกิน 8% ของราคาหุ้น
-ราคา high ของวันนี้ สูงกว่า ราคา high ในรอบ 15 วันที่ผ่านมา
-ราคา high ของเมื่อวาน น้อยกว่า ราคา high ในรอบ 15 วันที่ผ่านมา (เพราะถ้ามากกว่าหรือเท่ากับ ก็จะถูกสแกนเจอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว)
-มีโวลุ่มสนับสนุน โดยโวลุ่มวันนี้มากกว่าโวลุ่มเฉลี่ย 15 วัน ไม่ต่ำกว่า 2 เท่า
ตัวเลขต่างๆ เช่น 1 ล้านบาท 15 วัน 8% และ 2 เท่า เป็นค่าเหมาะสมที่ได้ภายหลังจากการทดลองด้วยค่าอื่นๆ ซ้ำๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง กล่าวคือ บางค่าที่มากไปหรือน้อยไป อาจทำให้ผลการสแกนได้จำนวนหุ้นที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป จำนวนหุ้นที่มากเกินไป เช่น ได้ 30 ตัว อาจทำให้เราตาลายเลือกไม่ถูก แต่ถ้าได้น้อยตัวเกินไป หุ้นตัวที่ดีๆ อาจหลุดรอดสายตาไป
ใครมีไอเดียเกี่ยวกับการสแกนหุ้น ก็แสดงความคิดเห็นได้นะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุน
หลักการสแกนหุ้นสูตรยกไฮยกโลว์
ได้แนวความคิดมาจากการสังเกตหุ้นในตลาดตัวใดตัวหนึ่งขึ้นแรงๆ เกิน 10%-20% ในวันเดียว เมื่อดูกราฟย้อนหลังแล้วก็พบว่า มันค่อยๆ ขึ้นมาหลายวันแล้ว โดยที่เราไม่ทันสังเกตุ คือมันจะขึ้นวันละนิดวันละหน่อย แล้วค่อยมาขึ้นแรงๆ เอาวันท้ายๆ ถ้าจะเข้าตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเสี่ยงเกินไป กลัวจะเข้าไปรับของจากเจ้าแล้วพลันติดดอยเปล่าๆ เลยเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า ตอนที่มันขึ้นวันแรกๆ ขึ้นทีละน้อยๆ ทำไมเราไม่รู้ตัว ทำไมเราไม่เข้าซื้อ
จึงเป็นที่มาของสแกนหุ้นสูตรยกไฮยกโลว์ คือเราจะสแกนหาหุ้นที่มี high และ low สูงขึ้น ติดต่อกัน 2 วัน เราจะไม่สนใจราคาปิด เพราะราคาปิดอาจปิดสูงหรือต่ำกว่าเดิมนิดหน่อยได้ แต่สิ่งที่หลอกเราไม่ได้คือ ราคา high และ low ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น บ่งบอกถึงสภาวะที่หุ้นมีคนต้องการซื้อมากกว่าต้องการขาย
โดยราคา low ที่ยกสูงขึ้น ชี้ให้เห็นว่า ที่ราคาต่ำกว่านั้นไม่มีใครยอมขายออกมาแล้ว และราคา high ที่ยกสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า มีความต้องการหุ้นมากถึงขนาดยอมซื้อแพงกว่าราคาเมื่อวาน
ทั้งหมดนี้เราจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า หุ้นตัวนี้กำลังจะขึ้นจริงๆ รึเปล่า หรือมันขึ้นเพราะมีการซื้อปิดตลาดด้วยจำนวนหุ้นเพียงเล็กน้อย เราจะตรวจสอบได้จากโวลุ่มซื้อขายในแต่ละวัน คือก่อนหุ้นจะขึ้นโวลุ่มอาจจะมีแบบกะปริดกะปรอย มากบ้างน้อยบ้าง เมื่อราคาขยับสูงขึ้นก็ย่อมจูงใจให้ผู้ที่มีหุ้นอยู่ในมือยอมขายออกมา จึงทำให้โวลุ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัว การเปรียบเทียบโวลุ่มจึงจำเป็นต้องเทียบกับโวลุ่มเฉลี่ยสัก 5 วันทำการย้อนหลัง ถ้าโวลุ่มวันนี้มีมากเกิน 200% ของโวลุ่มเฉลี่ยแล้วล่ะก็ เราจะมั่นใจได้อีกระดับนึงว่า หุ้นตัวนี้จะไปต่อแน่ๆ
ใครที่ใช้โปรแกรม Metastock ก็สามารถนำไอเดียนี้ไปสร้างสูตรของตนเองได้นะครับ หรือจะรอผลการสแกนที่นำมาโพสท์ที่นี่ทุกวันได้เลยครับ
เงื่อนไขที่ใช้ในการสแกนหุ้นสูตรยกไฮยกโลว์ มีดังต่อไปนี้
-มูลค่าการซื้อขายทั้งวันต้องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท (คำนวณง่ายๆ คือ ราคาปิด คูณ โวลุ่ม)
-ราคา high วันนี้ สูงกว่า ราคา high เมื่อวาน (ย้อนหลัง 1 วัน)
-ราคา high เมื่อวาน สูงกว่า ราคา high วันก่อนเมื่อวาน (ย้อนหลัง 2 วัน)
-ราคา high วันก่อนเมื่อวาน ต่ำกว่าหรือเท่ากับ ราคา high วันก่อนวันก่อนเมื่อวาน (ย้อนหลัง 3 วัน)
-ราคา low วันนี้ สูงกว่า ราคา low เมื่อวาน (ย้อนหลัง 1 วัน)
-ราคา low เมื่อวาน สูงกว่า ราคา low วันก่อนเมื่อวาน (ย้อนหลัง 2 วัน)
-โวลุ่มวันนี้ มากกว่า 200% ของโวลุ่มเฉลี่ย 5 วันย้อนหลัง
เงื่อนไขในสูตรนี้จะตัดหุ้นที่ high สูงขึ้นติดต่อกัน 3, 4, 5, ... วันทิ้งไป ด้วยเหตุผลคือ หุ้นตัวนี้จะถูกสแกนเจอตั้งแต่วันแรกที่ high สูงขึ้นติดต่อกัน 2 วันแล้ว
ถ้าใครมีไอเดียเกี่ยวกับการสแกนหุ้น ก็แสดงความคิดเห็นได้นะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ

Cr.กระทิงทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น